นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.51 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.57 บาทต่อดอลลาร์
เปิด 5 ปัจจัยสำคัญ คาดการณ์ราคาทอง ต้องดูอะไรบ้าง?
เช็กทิศทางราคาทอง ไปต่อ หรือ พอแค่นี้ ? หลังทำสถิติสูงสุดรายวัน
โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาททยอยแข็งค่าขึ้น (แกว่งตัวในช่วง 35.50-35.60 บาทต่อดอลลาร์) โดยเงินบาทได้ทยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจากช่วงเช้า
ที่ได้แรงหนุนจากการแข็งค่าอย่างรวดเร็วของเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) จากความคาดหวังของผู้เล่นในตลาดว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นหรือ BOJ อาจเริ่มขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมีนาคมนี้ ส่วนในช่วงคืนที่ผ่านมา
เงินบาทก็ยังคงได้แรงหนุนจากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ หลังราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ จากท่าทีของบรรดาธนาคารกลางหลัก ทั้งเฟดและธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ต่างส่งสัญญาณพร้อมลดดอกเบี้ยได้ในปีนี้
ส่วนรายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานต่อเนื่อง (Continuing Jobless Claims) สหรัฐฯ ที่ออกมาแย่กว่าคาด และถ้อยแถลงของประธานเฟดต่อสภาคองเกรสที่ย้ำจุดยืน “ลดดอกเบี้ยได้ แต่ยังไม่รีบ” ก็มีส่วนกดดันให้เงินดอลลาร์ทยอยอ่อนค่าลงเช่นกัน
สำหรับวันนี้ ไฮไลท์สำคัญที่ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นอย่างใกล้ชิด คือ รายงานข้อมูลสำคัญตลาดแรงงานสหรัฐฯ ทั้งยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls), อัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) และอัตราการเติบโตของค่าจ้าง (Average Hourly Earnings, %y/y)
นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดเช่นกัน เพื่อประเมินมุมมองของเจ้าหน้าที่เฟดต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและทิศทางนโยบายการเงิน
แนวโน้มของค่าเงินบาท
ยังคงมุมมอง เงินบาทจะมีแนวโน้มแกว่งตัว sideways down แต่การแข็งค่าของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา ก็อาจเริ่มชะลอลง โดยเฉพาะหลังเงินบาทได้แข็งค่าขึ้นทดสอบโซนแนวรับสำคัญ 35.50 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นโซนที่ผู้เล่นในตลาดบางส่วน โดยเฉพาะฝั่งผู้นำเข้าก็อาจรอจังหวะทยอยเข้าซื้อเงินบาทอยู่บ้าง
นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่ ต่างก็รอลุ้นรายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ที่อาจทำให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าได้เร็วและแรง หากข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาดไปมาก “เซอร์ไพรส์” ผู้เล่นในตลาดและเรา (ต้องเห็นยอดการจ้างงาน Nonfarm Payrolls เพิ่มขึ้น มากกว่า 2.5 แสนราย และหากเพิ่มขึ้น ราว 3 แสนราย ก็จะยิ่งกดดันเงินบาทได้พอสมควร)
สมมติฐานของผู้เล่นในตลาดที่เริ่มคาดหวังว่า BOJ จะเริ่มทยอยขึ้นดอกเบี้ยได้ในการประชุมเดือนมีนาคมนี้ ก็อาจยังพอช่วยหนุนให้เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ไม่ได้อ่อนค่ารุนแรง ซึ่งจะช่วยลดทอนการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ได้บ้าง
ตลาดอาจรอจังหวะเงินเยนผันผวนอ่อนค่า หากยอดการจ้างงานสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด ในการเพิ่มสถานะ Long JPY (มองเงินเยนแข็งค่าขึ้น) ก่อนที่จะไปทยอยลดสถานะดังกล่าวในช่วงเข้าใกล้การประชุม BOJ เดือนมีนาคม ระหว่างวันที่ 18-19 มีนาคมนี้
นอกจากนี้ ควรระวังแรงเทขายราคาทองคำในคืนนี้เช่นกัน หากเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ พลิกกลับมาปรับตัวขึ้นแรง จากรายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาดชัดเจน หลังราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นเข้าสู่โซน Overbought และเสี่ยงต่อการปรับฐานรุนแรงในระยะสั้นได้ ทำให้เรามองว่า ในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ เงินบาทอาจแกว่งตัวในกรอบที่กว้างขึ้นในช่วง 35.35-35.80 บาทต่อดอลลาร์
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.45-35.65 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงก่อนตลาดรับรู้ยอดการจ้างงานสหรัฐฯ
และประเมินกรอบเงินบาท 35.35-35.80 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงตลาดทยอยรับรู้ยอดการจ้างงานสหรัฐฯ
ด้าน ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด35.55 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 35.59 บาท/ดอลลาร์
เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยต่อคณะกรรมการของวุฒิสภาสหรัฐว่า เฟดใกล้ที่จะเชื่อมั่นว่า เงินเฟ้อกำลังลดลงสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% ซึ่งจะทำให้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยมีความเป็นไปได้
ความเห็นของนายพาวเวลได้ตอกย้ำความหวังของนักลงทุนว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งแรกในเดือน มิ.ย.ปีนี้
นอกจากนี้ การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจช่วยหนุนแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยด้วย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ระดับ 217,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
คืนนี้จับตาการเปิดเผยข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.พ.ของสหรัฐเพื่อบ่งชี้รายละเอียดเกี่ยวกับภาวะตลาดแรงงานและเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณานโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ
เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรไทยสุทธิ149 ล้านบาท และขายหุ้นไทยสุทธิ 2,553.61 ล้านบาท
กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ USD/THB 35.40 – 35.70 *แนะนำ ทยอยซื้อที่ 35.40/ ขาย 35.70
EUR/THB 38.70 – 39.10 * แนะนำ ซื้อ38.70/ ขาย 39.10
JPY/THB 0.2380 – 0.2430 * แนะนำ ซื้อ0.2380 / ขาย 0.2430
GBP/THB 45.20 – 45.70 AUD/THB 23.30 – 23.80
เช่นเดียวกับ กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 35.50-35.70 บาท/ดอลลาร์
โดยมองว่า เงินบาทแข็งค่าขึ้นค่อนข้างเร็วจากดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงตาม US Treasury yields ที่ปรับลดลง หลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ (ADP Employment) ออกมาแย่กว่าคาด
ขณะที่ นายเจอร์โรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางของสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อ House Financial Service Committee ว่า อัตราดอกเบี้ยน่าจะถึงจุดสูงสุดแล้ว และมีแนวโน้มที่จะปรับลดลงในปีนี้
ส่วน รัฐมนตรีคลังของจีนกล่าวว่า ยังสามารถลด Reserve Requirement Ratio (RRR) ลงอีกได้ ส่งผลให้ Govt yields ของจีนปรับลดลง
8 มีนาคม “วันสตรีสากล” รำลึกการเรียกร้องสิทธิ ความเท่าเทียมของผู้หญิง
แฟนการ์ตูนอาลัย “โทริยามะ อากิระ” ผู้สร้าง “ดราก้อนบอล” เสียชีวิตแล้ว
ประกาศเตือนพายุฤดูร้อน ฉบับที่ 7 ฝนจ่อถล่มไทยหลายพื้นที่ คำพูดจาก เว็บสล็อตเว็บตรง